3 เคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกกระเป๋าเดินทาง(ฉบับรวบรัด)

ในวันนี้นะครับผมจะมาเสนอวิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางแบบง่ายๆที่เราสามารถเลือกซื้อได้ด้วยตัวเองตอนนี้เลย บทความนี้ใช้เวลาอ่านไม่นานครับ หลังจากอ่านเสร็จเราก็สามารถเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางเหมาะๆได้เลย และในตอนท้ายผมจะแนะนำว่าเวลาจะซื้อกระเป๋าเดินทาง ซื้อที่ไหนดีให้ได้ราคาที่ถูกที่สุด จะได้ราคาถูกที่สุด รวมไปถึงคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการเดินทาง, ไปเที่ยวหรือย้ายบ้านครับ

เวลาเราจะไปเที่ยวที่ไหนไกลๆไปเที่ยวในประเทศ เช่นเชียงใหม่หรือเที่ยวต่างประเทศ หรือเราต้องการขนของย้ายบ้าน กระเป๋าเดินทางก็เป็นตัวช่วยอย่างดีครับ ที่จะใช้เก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น เวลาเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางเราจะใช้วิธีง่ายๆแบบนี้ดังนี้ เพื่อให้ได้กระเป๋าที่เหมาะกับเรามากที่สุดครับ

1) เลือกขนาดของกระเป๋าเดินทาง

กระเป๋าเดินทางมีหลายขนาดครับซึ่ง โดยทั่วไปแล้วจะมีอยู่ประมาณ 4-5 ขนาด กระเป๋าเดินทางของเราจะใช้เก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของเราเป็นหลักเช่น สบู่ แปรงสีฟัน น้ำหอม โคโลญจน์ และเอกสารสำคัญต่างๆ ซึ่งขนาดของกระเป๋าเดินทางจะดูจากว่าไปพักกี่วัน

• ถ้าเราต้องการเดินทางแค่ 1 - 3 วันก็ไม่จำเป็นต้องใช้กระเป๋าใบใหญ่ครับ ผมแนะนำว่าใช้กระเป๋าเดินทางขนาด 18 ถึง 20 นิ้วก็เพียงพอแล้วครับ
• ส่วนคนที่ต้องเดินทาง 4-6 วันก็อาจจะใช้กระเป๋าใบใหญ่ขึ้นมานิดนึง โดยทั่วไปก็จะใช้กระเป๋าขนาด 24 นิ้วกันครับ
• การเดินทาง ประมาณอาทิตย์นึงถึง 10 วันผมแนะนำว่า กระเป๋าขนาด 28 นิ้วก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ

อย่าลืมดูปริมาณของเราด้วย
คำแนะนำข้างบนก็เป็นคำแนะนำคร่าวๆ เวลาเราจะไปซื้อจริงก็ดูปริมาณของอย่างอื่นด้วยว่าของเรามีเยอะเกินไปไหม อาจจะต้องการกระเป๋าที่ใหญ่ขึ้นหรือเปล่าครับผม

2) แล้วจะใช้กระเป๋าแบบ Soft Case หรือ Hard Case ดี ?

ความแตกต่างระหว่าง Soft Case กับ Hard Case ก็คือ Soft Case โดยทั่วไปแล้วก็จะผลิตจากผ้า ทำให้ยืดหยุ่น แต่กันกระแทกไม่ค่อยดี ส่วน Hard Case ก็จะเป็นกระเป๋าเดินทางราคาแพงขึ้นมาอีกนิด กระเป๋าแข็งๆมันๆเงาๆ กันกระแทกได้ดี ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำส่วนใหญ่ก็จะเป็น พลาสติกครับ

คำแนะนำ
ผมแนะนำว่า ใช้เป็นกระเป๋าเดินทางแบบ Hard Case จะดีกว่าครับเพราะว่าบางคนเคยใช้กระเป๋าเดินทางแบบ Soft Case แล้ว แต่ของข้างในบางครั้งเราก็จะเก็บขวดแชมพู ครีม โลชั่น ถ้าเกิดกระเป๋าโดนกระแทกอย่างแรง ครีมหรือขวดแชมพูอาจจะแตกได้กระเป๋าเลยครับ ยอมซื้อกระเป๋าแบบ Hard Case ซึ่งจะแพงกว่าอีกนิดหน่อย(ไม่กี่ร้อยเอง) แต่ผมมองว่าคุ้มกับการเดินทางกว่ามากครับ

3) ถ้าเลือกกระเป๋าแบบ Soft Case มีเทคนิคอย่างไร

การเลือกกระเป๋าแบบ Soft Case นะครับวัสดุที่ใช้ทำส่วนใหญ่จะใช้ผ้าทำซึ่ง โดยปกติแล้วกระเป๋าเดินทางจะมีมาตรฐานในการวัดความแข็งแรงผ้า(denier) ที่มาใช้ถักทอเป็นกระเป๋า ยิ่งค่ามากแปลว่ายิ่งแข็งแรงมาก เช่น โพลีเอสเตอร์ 1400 denier ก็จะแข็งแรงกว่าโพลีเอสเตอร์ 700 denier ครับ

คำแนะนำ
โดยทั่วไปสายการบินต่างๆจะแนะนำให้เราใช้กระเป๋าเดินทางที่มีค่าความแข็งแรงของผ้า(denier) ไม่ต่ำกว่า 600 หรือ 700 ครับ

ซื้อที่ใหนจะได้ราคาถูก

ผมแนะนำว่าเวลาซื้อ อย่าไปซื้อในห้างครับเพราะมันจะแพงมาก ที่ที่ขายถูกสุดเท่าที่ผมเห็นก็จะเป็นที่ Lazada ซึ่งจากเท่าที่ผมเช็คราคามา ก็จะถูกกว่าในห้างอยู่หลายเท่าตัวเลยนะครับ ซื้อจากที่นั่นจะดีกว่าครับ ก่อนซื้อก็อย่าลืมดูรีวิวด้วยนะครับ เราจะได้รู้จากคนที่ซื้อไปก่อนหน้าว่ากระเป๋าเดินทางอันนี้ มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

เพียงเท่านี้เราก็สามารถเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง ได้อย่างมั่นใจแล้วครับ ผมหวังว่าในบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังจะเดินทางไม่ว่าจะไปต่างประเทศหรือในประเทศ ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อสงสัยหรือมีคำแนะนำอะไรก็สามารถ comment ได้ด้านล่างครับ ขอบคุณมากครับ

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนไม่มีรถ

ถ้าหากเราจะย้ายบ้าน ย้ายหอ ไปอยู่ที่อื่นแต่จะย้ายไปอยู่ตามต่างจังหวัดหรือย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ผมแนะนำบริการรถรับจ้างจาก http://www.lnwmove.com/category/5/บริการขนของทั่วประเทศ/บริการทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ให้บริการโดยทีมงาน LnwMove(อ่านว่าเทพมู๊ฟ) ราคาถูกและเป็นกันเองดีครับ
สำหรับคนที่จะไปเที่ยวในประเทศ เราแนะนำว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้อแพคเกจรถทัวร์ เพียงแค่หาข้อมูลการเดินทาง เอง จองที่พักเองจะได้ราคาที่ถูกกว่าครับ เราสามารถเที่ยวได้อย่างอิสระมากกว่า
คนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ก็มีบริษัททัวร์อยู่หลายบริษัทให้เราเลือกได้อย่างจุใจ ที่คนใน Pantip จะรีวิวถึงบริษัทที่เคยใช้บริการแล้วชอบเช่น รุ่งทรัพย์ discovery, Avenue Tour, Europian tour ฯลฯ